[SF:Exo] I want to hear your heart....100%
อยากให้เธอได้ยิน เสียงในหัวใจ ว่ามัน "รักเธอ"แค่ไหน แต่ก็ไม่รู้ต้องทำยังไง ให้เธอได้รับฟัง...
ผู้เข้าชมรวม
993
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title: I want to hear your heart....
Couple: Kris x Lay x Luhan
Note: อยากให้เธอได้ยิน เสียงในหัวใจ ว่ามัน "รักเธอ"แค่ไหน แต่ก็ไม่รู้ต้องทำยังไง ให้เธอได้รับฟัง...
“สวัสดีฮะ ผมชื่อ จางอี้ชิง”
“อะ อื้ม หวัดดี "
จากวันนั้นถึงวันนี้ถึงก็ผ่านมา 3 ปีแล้วที่ผมได้เจอกับ เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ เขามักจะทุ่มเทให้กับความฝันของเขาอย่างเต็มที่ มันเหมือนเป็นแรงผลักดันของผมเหมือนกัน เพราะเมื่อผมเหนื่อยหรือท้อ แค่ได้เห็นเขา ผมก็รู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างมาผลักดันผมให้เดินไปพร้อมกับเขา
...ผลัก!...
“เอ้า! ทุกคนพักก่อนๆ วันนี้เรามีเทรนนี่คนใหม่ด้วย เขาเป็นคนจีนนะ” พี่สตาฟของต้นสังกัดชื่อดังเดินมาบอกข่าวให้กับพวกเด็กเทรนคนอื่นร่วมถึงผมด้วย
ครั้งแรกที่เห็นผมคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กใหม่นั้นน่ารักมากๆ ตากลมโต จมูกรั้งปลายนิดๆ ริมฝีปากเรียวได้รูปผิวที่ขาวเนียนภาพลักษณ์ดูแล้วออกแนวคุณหนูนิดๆ แต่นั้นก็ไม่สามารถดึงดูดสายตาผมออกจาก จาง อี้ชิง ที่นั่งข้างๆผมได้ แววตาเป็นประกาย ผิวขาวดุดน้ำนม ดูแล้วจะขาวกว่าเด็กใหม่นั้นอีก มีเหงื่อซึมออกมาเป็นผลจากการซ้อมที่เจ้าตัวทุ่มเท
“ช่วยดูแลกันด้วยนะ” เมื่อบอกข่าวเสร็จก็พาเด็กเทรนคนใหม่ไปสำรวจสถานที่และบอกลายละเอียดเกี่ยวกับการเทรน กว่าเด็กใหม่จะมาทำความรู้จักกับเด็กเทรนคนอื่นอีกทีก็ได้เวลากลับกันแล้ว
“อ๊ะ!”
“นี่เป็นไรไหม?”
ผมหันไปตามเสียงของอี้ชิงแต่ก็ต้องชาวาบไปทั้งตัวกับภาพตรงหน้า ‘อี้ชิงถูกเด็กใหม่โอบเอว’ ผมรีบหันหน้ากลับมา ไม่อยากเห็นภาพนั้น ‘หยุดเต้นสิ ไอ่หัวใจบ้า’ ตอนนี้หัวใจผมมันเต้นแรง ไม่ใช่เพราะตื่นเต้น แต่มันเจ็บ อาการแบบนี้มันคืออะไรกัน...
.
.
.
ผมเดินเข้ามาในห้องซ้อมเดิมที่พี่สตาฟได้เคยพาเข้ามาแนะนำตัวกับคนอื่นๆ ตอนนี้มันเป็นเวลากลับบ้านแล้วแหละ แต่ผมก็ยังอยากไปที่ห้องซ้อมอีกครั้ง
ผมเปิดประตูมาพอดีก็เห็นเด็กผู้ชาย ใบหน้าที่หวานสวยไม่แพ้กับผู้หญิง แววตาที่มุ่งมั่น ปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ที่ขยับฮึมฮัมตามเพลง แขน ขา วาดลวดลายการเต้นที่ยอดเยี่ยม ร่างบอบบางกำลังขยับตามจังหวะเพลงอย่างคุ้นเคย ดูเหมือนเป็นภาพวาดที่สวยงาม “อ๊ะ!” ร่างบางนั้นสะดุดกับเท้าตัวเองผมเลยรีบไปพยุงเขาไว้เพื่อไม่ให้เจ็บตัว ตอนนี้หน้าผมกับเขาใกล้กันไม่ถึงคืบ มันทำให้ผมเห็นหน้าของเขาได้ชัดเจนเหมือนมีอะไรอย่างสะกดให้ผมไม่สามารถละสายตาไปได้
“นี่เป็นไรไหม?” ผมเอ่ยถามเขาที่หลับตาปี๋ก่อนเขาจะค่อยๆลืมตามามองแล้วทำหน้าอึนๆ ใส่ผม
น่ารัก...
“มะ ไม่เป็นไรฮะ เอ่อ...ผม จาง อี้ชิงนะฮะ^^” อ่า...ชื่อเพราะจังแถมยิ้มก็น่ารักขึ้นไปอีก ผมนึกในใจก่อนจะตื่นจากภวังค์ เพราะอี้ชิงยื่นมือมา ผมไม่ลังเลเลยที่จะจับตอบ มือเขามีความสากนิดๆแต่ก็ยังคงความนุ่มกว่าผู้ชายทั่วไป
“ฉะ ฉัน ลู่หาน... เสี่ยว ลู่หาน”
“ลู่หาน มาจากจีนหรอ?”
“อื้ม” เขาเอี้ยงคอถาม แววตาของเขาเหมือนเด็กไร้เดียงสาที่ขี้สงสัย นี่ถ้าผมสนิมกับเขาผมคงจะสั่งห้ามทำท่าน่ารักๆแบบนี้กับใครเด็ดขาด
“ไม่เหมือนคนจีนเลย เหมือนคนเกาหลีมากกว่าแถมสำเนียงยังดีอีกตั้งหาก”
“หรอ?”
“อื้ม อ๊ะ!ลู่หานมานี่สิ” อี้ชิงจับมือผมแล้วลาก?ผมไปตรงมุมห้อง ยอมรับเลยว่าวินาทีที่เขาจับมือมือผมใจก็เต้นแรงเหมือนกับจะหลุดออกจากอกให้ได้
“นี่พี่อี้ฟาน คนจีนเหมือนกัน” ผมเสียดายที่เขาปล่อยจากผมแต่มันก็ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นใจผมคงหลุดจากอกแน่
“สวัสดี ผมลู่หาน เสี่ยวลู่หาน ”
“อืม...ฉัน อู๋อี้ฟาน” ว้าว เขาสูมากๆ แถมหน้าตายังหล่ออีกด้วย ตาคม จมูกเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป เหมือนเขาเป็นพระเอกนิยายที่เพื่อนผมเคยเล่าให้ฟัง
“พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ^^” อี้ชิงยิ้มแล้วเขย่งกอดคอผมกับอู๋ฟาน
อ่า...จากวันนั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาจนถึงวันนี้...
.
.
.
ตอนนี้ทั้ง12คนที่มีความฝันเดียวกัน ได้เดบิวต์มา7-8เดือนแล้ว พวกเขาจะได้มารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากแยกกันไปโปรโมตตามประเทศที่ทางบริษัทได้วางแผนไว้ และวันนี้ทุกคนจะต้องไปร่วมงานประกาศรางวัลMAMA ทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้มาเจอกันอีกครั้งและตัวเองได้มีชื่อในงานประกาศรับรางวัลถือว่าประสบความสำเร็จอีกขั้นที่ทุกคนตั้งเป้าไว้
.
.
.
"ทำไมเป็นคนแบบนี้ ห๊ะ!! รู้ไหม?คนอื่นเขาเดือดร้อนกันหมด!!" เสียงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของหัวหน้าฝั่งเอม ดังขึ้นกลางห้องโถงที่เต็มไปด้วยสมาชิกฝั่งเอมและเค
"คริส! นายพูดกับเลย์ดีๆสิ แค่นี้น้องมันก็เสียขวัญหมดแล้ว!" อีกเสียงหนึ่งค้านออกมา เมื่อเห็นแววตาตกใจกับคำพูดของคนตัวสูงก่อนหน้า ถึงแม้ใบหน้าจะนิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่ในใจอาจจะร้องไห้ออกมาก็ได้
"หึ! ก็มันจริงนิ ฟืนตัวเอง คิดแต่ว่าไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้กับคนอื่น แต่เป็นไง? พอร่างกายทนไม่ไหว อาการกับทรุดจนงานต้องถูกยกเลิก ยังงี้มันคงไม่เป็นภาระของคนอื่นยังงั้นสิ!"
ร่างบางเม้มปาก พยายามอย่างมากที่จะสะกดความรู้สึกที่ปะปนกันมั่วไปหมด ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธกับคำพูด ทั้งๆที่อยากจะได้ยินคำปลอบโยนจากคนตัวสูง
ผลัก!
"คริส! พอ!นายจะใช้อารมณ์มากไปแล้วนะ!!" คนหน้าหวานเริ่มทนกับพฤติกรรมที่คนคนตัวสูงทำกับคนที่ตนรักไม่ไหว จึงเดินไปผลักร่างสูงที่กำลังบีบแขนร่างบาง
"มีคนให้ท้ายยังงี้เลยได้ใจละสิ! เมื่อก่อนไม่เห็นจะดื้อขนาดนี้ สงสัยจะมีคนมาคอยเอาใจ!!" การกระทำของคนหน้าหวานทำให้ อารมณ์ของคริสใกล้ถึงขีดสุด คำพูดที่ดูถูกร่างบางพรั่งพรูออกมาจากปากโดยไม่รู้ตัว
ลู่หานกระชากคอเสื้อของคริส ถึงแม้อุปสักความสูงที่ค่อนข้างต่างกันพอสมควร ก็ไม่ทำให้อารมณ์ของคนหน้าหวานลดลง มือเรียวและมือหนากำแน่นถ้าอารมณ์ถึงขีดสุดเมื่อไหร่ก็พร้อมจะไปกระทบกับใบหน้าของอีกคนในทันที
"พอ... " เสียงหวานที่ติดแหบพร่าเพราะไม่ได้พูดเป็นเวลานานเอ่ยอย่างแผ่วเบา สายตาเหม่อลอยออกไป จนคนทั้งสองที่ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันหันมามองร่างบาง
"หยุดสักที..." เป็นอีกครั้งที่ร่างบางพูดออกมาคำพูดที่แสนธรรมดาแต่เต็มไปด้วยอารมณ์คนพูดทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ใช่คนโวยวายจนไม่ถึงขีดสุดของอารมณ์จึงพูดออกมาได้แค่นี้
คนทั้งสองปล่อยมือออกจากปกเสื้อของแต่ละคนแล้วหันมามองคนที่เอาแต่พูดกับท้องฟ้าอย่างแผวเบา
"ถ้าฉันผิดฉันขอโทษ...ฉันจะรับผิดชอบเอง..." พูดเสร็จร่างบางตั้งท่าจะเดินออกไปแต่ต้องชะงักเพราะเเขนแกร่งของรุ่นน้องสีผิวเข้ม
"พี่จะทำอะไร?" ไคพูดออกมาด้วยหน้าตาเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความกังวลและความห่วงใย
ร่างบางไม่ตอบแต่กลับยิ้มบางๆและจับมือของรุ่นน้องที่พยายามรั้งไว้ออก
.
.
.
"ทุกคนจะทำกิจกรรมเหมือนเดิม" เสียงผู้จัดการฝั่งเคเอ่ยขึ้นหลังที่เลย์ได้ไปคุยกับทางตนสังกัดเมื่อคืนหลังจากเกิดเรื่อง
"โดยที่ไม่มีเลย์ และเราจะส่งตัวเลย์ไปพักรักษาที่จีนสักเดือนหนึ่ง ดีที่ช่วงนี้ไม่มีงาน" เสียงผู้จัดการฝั่งเอมเอ่ยต่อ ทำสมาชิกทุกคนแตกตื่นมีแต่ร่างสูงที่นั่งเงียบปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกมากมายถาถ่มเข้ามา
"แล้วเลย์ไปไหนละครับ ผมไม่เห็นเขาเลย" หลังที่ร่างบางออกไปลู่หานก็เอาแต่ติดต่อกับร่างบางแต่ก็ไม่ติด จนตั้งใจจะออกไปตามหาข้างนอกแต่ก็ไม่ได้ออกไปเพราะข้อความจากคนที่กำลังเป็นห่วงส่งเข้ามา
'พี่ลู่หาน...ตอนนี้ฉันอยู่ที่บริษัท ไม่ต้องเป็นห่วง
ฉันไม่เป็นไร อย่าหวงเลย...เดี่ยวฉันจะกลับมานะ...เลย์'
ถึงแม้จะแปลกใจกับคำพูดที่ส่งมาแต่ก็โล่งใจที่ร่างบางอยู่ที่บริษัท
"เลย์ กลับจีนไปแล้วล่ะ"
"ไปตอนไหนครับ ผมไม่เห็นเลย?" เสียงพี่คนโตที่สุดเอ่ยออกมา ถึงแม้จะไม่ใช่รูมเมทแต่ถ้าร่างบางออกไปตอนเช้าก็น่าจะได้เจอกับเขา เพราะเขาตื่นเช้าที่สุด
"เมื่อคืน หลังจากที่คุยกับท่านประธานและหมอเสร็จ ก็มาเก็บของแล้วฉันก็ไปส่งที่สนามบิน" เมื่อหมดข่าวที่จะมาบอกกับสมาชิกคนอื่นๆพี่ผู้จักการก็ออกไป คริสและลู่หานเดินกลับเข้าห้องตัวเองและเอาแต่อยู่ในห้อง ไม่มีใครกล้าที่จะไปยุ่งในตอนนี้และให้ทั้งสองคิดทบทวนกับตัวเอง
.
.
"พี่อี้ฟาน ฮึก พี่ได้ยินเสียงหัวใจของผมรึเปล่า ฮึก" เสียงหวานสะอื้นแผ่วเบาแววตาเศร้าจองไปยังโทรศัพท์ ที่โชว์รูปคนที่ทำร้ายความรู้สึกของเขามาโดยตลอด
จาง อี้ชิงคนนี้รักอี้ฟานมานานตั้งแต่เป็นเทรนนี่ เขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตอนไหนแต่มันมันชัดเจน ตอนที่ได้เดบิวต์ จากที่เคยตัวติดกันเกือบ24ชม.ก็ห่างเหินกัน เมื่อก่อนตอนป่วยมีร่างสูงมาคอยดูแลแต่ตอนนี้ไม่มีแม้เงา จากที่เคยใช้เวลาอยู่ด้วยกันมันก็ไม่มีเหลือ ยังดีที่เขามีลู่หานคอยปลอบใจไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน แต่ตอนนี้เขาคงจะเห็นแก่ตัวอีกไม่ได้เพราะอี้ฟานต้องรับหน้าที่เป็นตุ้ยจาง ที่ต้องคอยดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมและด้วยหน้าที่ที่เป็นตอนนี้เขาควรไม่มีเรื่อง'ความรัก'ให้ส่งผลกระทบกับงาน
"ผมจะลืมพี่ให้ได้ เพื่อทุกคนและตัวผมเอง"
---------------------------------------I want to hear your heart--------------------------------------------
หนึ่งเดือนแล้ว...ที่ใครคนหนึ่งจากไปเพราะการกระทำของตัวเอง
หนึ่งเดือนแล้ว...ที่เขาทำผิดสัญญากับหัวใจของตัวเอง
หนึ่งเดือนแล้ว...ที่เขาเพิ่งรู้ใจตัวเอง
อี้ชิง...ฉันขอโทษ...ฉันรักนาย...
ตอนนี้คริสและลู่หานพูดคุยกันเหมือนเดิม และได้รู้ความรู้สึกของกันและกัน พวกเขาเฝ้ารอคอยการกลับมาของใครบางคน ที่จริงคริสและลู่หานอยากจะไปรับร่างบางที่สนามบินด้วยซ้ำแต่เพราะกลัวว่าแฟนคลับจะตามไปและพวกเขาติดประชุมเรื่องอัลบัมใหม่กับบริษัท เลยทำได้แต่รอร่างบางที่บริษัท
"คริสนายรักเลย์ใช่ไหม" คำพูดของเพื่อนทำให้ร่างสูงชะงักทันที ใช่ว่าเค้าจะไม่รู้สึก เขาเพิ่งรู้ตัวเมื่อขาดเลย์ไปแค่หนึ่งอาทิตย์ ทุกวันตื่นมาเขาจะกินข้าวฝีมือคนตัวเล็ก ได้เห็นรอยยิ้มแสนหวาน ได้เห็นแววตาใสที่มีประกาย แต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่า เขาเฝ้าถามตัวเองมาตลอดว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ได้รู้จักร่างบางมันคืออะไร จนในที่สุดเขาก็ยอมรับว่ามันคือ'ความรัก'
"ใช่...ฉันรักเลย์..." นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกที่เขามีให้ร่างบาง
"ตั้งแต่เมื่อไหร่?..." ร่างเพียวถามไปทั้งๆที่รู้อยู่แกใจแต่มันก็อยากฟังจากปาก'เพื่อน'ให้แน่ใจ
มันไม่ใช่ว่าเขาจะยอมแพ้ แต่แค่อยากรู้ว่า'ความรัก'ของเขาที่มีให้ร่างบางตั้งแต่เเรกพบมันเทียบได้กับร่างสูงรึเปล่า
"ครั้งแรก...ที่เจอ"
"..." ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เพราะต่างคนต่างตกอยู่ในภวังค์ที่ตัวเองสร้าง "ลู่หาน...นายก็รักเลย์สินะ" สุดท้ายคำถามที่คาใจมานานก็หลุดออกไปจากปากร่างสูง
"อืม...รักตั้งแต่แรกเห็น ตอนนั้นน่ะ 'อี้ชิง' เหมือนยูนิคอนจริงๆนะ"ร่างเพียวเผยยิ้มอ่อนโยนขณะพูดถึงร่างบาง รอยยิ้มที่เห็นได้ยาก จริงอยู่ที่เขาได้ฉายาว่า 'นางฟ้า' มีรอยยิ้มที่อ่อนหวาน แต่ถ้าดูจริงๆเขาเทียบไม่ได้เลยกับร้อยยิ้มของ จาง อี้ชิง รอยยิ้มที่มาจากใจ
"ยูนิคอน?"
"อื้ม...ก็ลักษณะภายนอกดูเย็นชาแต่ภายในอ่อนโยน อบอุ่น เข้มแข็ง ร่าเริง สดใส เห็นครั้งแรกฉันก็ตกหลุมรัก อี้ชิง เลยล่ะ"
"อี้ชิง...จาง อี้ชิง อ่า...ไม่ได้เรียกชื่อนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ" ตั้งแต่ได้ชื่อเล่นกันไหมพวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะเรียกแต่ชื่อเล่น เพื่อไม่ให้ลืมและหลุดตอนไปถ่ายรายการต่างๆ
"นั่นสิ...คริส" ร่างสูงที่กำลังนึกถึงใบหน้าหวานของร่างบางอยู่ หันไปตามเสียงเรียกของร่างเพียว
"หือ?"
"ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอกนะ ฉันจะดูแลอี้ชิง ด้วยความรู้สึกทั้งหมดของฉัน" ร่างเพียวพูดอย่างมุ่งมั่นเขาจะดูแลร่างบางเอง จะคอยอยู่ข้างๆในยามเศร้าหรือเหงาถึงแม้ร่างบางจะไม่รู้สึกเช่นเดียวกับเขาก็ไม่เป็นไรแค่ขอให้ร่างบางมีความสุขก็เพียงพอแล้ว
"หึ! คิดว่าฉันจะยอมแพ้นายหรอลู่หาน ตอนนี้ฉันกล้าที่จะเผชิญกับทุกอย่างแล้วและฉันไม่มีวันปล่อยอี้ชิงแน่" ทั้งสองคนจับมือกับด้วยความมุ่งมั่นที่ตนมีและพร้อมที่จะพิชิตใจร่าบาง
.
.
"อ๊ะ! พี่เลย์!" มักเน่ฝั่งเอมวิ่งเข้าไปกอดร่างบางที่แทบจะไม่ได้ติดต่อกับเป็นเดือน พร้อมกับร่างของสามชิกต่างวิ่งเข้ามาหาร่างบ่างเช่นเดียวกัน
"ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้เทา อ๊ะ! เซฮุนอ่า..." ระหว่างที่มักเน่ฝั่งเอมเอาแต่กอดร่างบางไม่เผื่อแผ่ให้ใคร จนมักเน่ตัวจริงหมั่นใสเลยเข้าไปสวมกอดด้านหลังของร่างบาง
"ผมคิดถึงพี่อี้ชิงมาก~" ไม่ว่าเปล่าก็จัดท่าแอ็บแบ้วสุดน่ารักใส่คนเป็นพี่ทันที เรียกเสียงฮาจากสมาชิกทั้งหลายพฤติกรรมทั้งหมดของร่างบางอยู่ในสายตาของทั้งสองคน
"พี่เลย์ ผอมไปรึเปล่าเนี้ยก่อนไป ผมว่ากอดหลวมแล้วนะ ตอนนี้หลวมกว่าเดิมอีก" ทั้งสองมักเน่ผละจากอ้อมกอดก่อนจะหมุนร่างบางไปมาเพื่อดูให้แน่ชัด
"ก็นิดหน่อยนะ กลับไปก็เข้ารักษาตัวเลย...ได้ยาตัวใหม่มาแล้วมันมีผลข้างเคียงนิดหน่อยนะ"
"ผลข้างเคียงอะไร?เลย์" เสียงอบอุ่นของคนน่าหวานเอ่ยทันที เมื่อได้ยินเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของคนที่ตอนแอบรัก
"ก็แค่ไม่ค่อยอยากอาหารแค่นั้นแหละ ลู่หาน"คนตัวเล็กทำเสียงน่ารักๆใส่ร่างเพียวหวังจะให้คลายเครียดลงบ้าง เขาก็รู้ว่าลู่หานน่ะ เป็นเขามากแค่ไหน
"เอาล่ะๆ ไปประชุมก่อนเดียวค่อยมาดีใจกันใหม่" เสียงผู้จัดการเอ่ยขัด
ทั้ง12ได้เสร็จประชุมเกี่ยวกับอัลบัมใหม่ที่มีขึ้นในไม่ช้า
.
.
"เลย์ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" ร่างสูงเดินมาอยู่ข้างหลังก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนฟังใจสั่น ร่างสูงส่งสายตาไปทางเพื่อนหน้าหวานเป็นการเอ่ยชวนว่า'นายก็ไปด้วยนะ'
"อะ อื้ม" ทั้งสามเดินไปบนดาดฟ้าของตึก เมื่อก่อนทั้งสามชอบมานั่งเล่นกันที่นี่แต่หลังจากเดบิวต์ก็ไม่เคยมาเหยียบที่นี่อีกเลย
"อี้ชิง..." คนตัวเล็กมองหน้าคริสอย่างหวั่นๆไม่ใช่เพราะกลัวแต่เป็นเพราะคำเรียกที่ไม่ได้ยินมานาน
"ฉันขอโทษที่ทำให้นายเสียใจ ฉันเข้าใจไปว่าตุ้ยจาง จะต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม มันเลยทำให้เวลาของเรามันไม่มีเหลือและฉันก็ห่างเหินละเลยนายไป แต่สิ่งที่ฉันทำมันกลับทำร้ายตัวของฉันเอง นายเจ็บฉันเจ็บกว่า นายเศร้าฉันเศร้ากว่า ฉันไม่มีความสุขเลยหลังจากที่ฉันทำมันลงไป" เสียงของร่างสูงที่สั่นเครือหยุดลง ร่างสูงหายใจเข้าลึกๆก่อนจะบอกคำที่อยากให้ร่างบางฟังมากที่สุด
"สิ่งที่ทำให้ฉันได้มีความฝันก็คือนาย จากนี้ฉันจะไม่ทำให้นายเสียใจ... อี้ชิง พี่รักนาย"
ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากปากของร่างบาง ไม่มีแม้น้ำตา แต่หัวใจของร่างบางตอนนี้เต้นเร็วและรัวจนมันจะระเบิดออกมา
"พี่ว่าลู่หานก็มีอะไรที่จะบอกนาย" ลู่หานรู้สึกงงเล็กน้อยเขานึกว่าคริสจะพาเข้ามาฟังคำสารภาพ แต่ไม่ใช่ที่คริสพาเขาด้วย เพราะอยากให้เขาได้บอกความรู้สึกเหมือนกัน
ร่างบางหันมาทางลู่หาน ใบหน้าหวานสวยเหมือนผู้หญิง ดวงตาเป็นประกายกำลังจ้องเขาอยู่
"อี้ชิง...ฉัน...รักนาย" สั้นๆได้ใจความ ดวงตาใสเบิกกว้าง ปากบางได้รูปเผยอเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะโดนสารภาพรักในเวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกัน ทั้งยังเป็นคนที่สนืททั้งสองอีก
"พี่รักนายตั้งแต่แรกพบ พี่ขอ...ขอ...ได้ดูแลนาย ถึงแม้นายจะไม่ได้เลือกพี่ก็ตาม"
แววตาที่ประกายสักครู่กับเป็นเศร้าแทน เพราะเค้าเลือกแล้ว เพราะสถานะภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้และเขาไม่ควรเห็นแก่ตัว เขาตัดสินใจแล้วว่าควรจะทุ่มเทให้กับงาน
"พี่ลู่หาน พี่อี้ฝาน ผม...ผม ขอโทษ เรามาไกลจนเกินไป สถานะภาพตอนนี้มันไม่ควร พี่เข้าใจผมใช่ไหม? พี่ไม่เกลียดผมนะ" เสียงสั่นเครือที่ร่างเล็กพยายามควบคุมหยุดลง น้ำใสไหลกลิ้งตัวลงมาจากตาใส เขาเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว
"ไม่เป็นไรพี่เข้าใจ แต่พี่ไม่มีวันเลิกรักนาย วันไหนที่ทุกอย่างพร้อม วันนั้นพี่จะขอนายอีกทีนะ"อี้ฝานยิ้มอย่างอ่อนโยนเข้าไปสวมกอดร่างบางที่ปล่อยโฮออกมา
"พะ พี่ลู่หาน" ร่างบางผละจากออมกอดของอี้ฝาน หันหน้าไปทางอีกคนที่เงียบจนคนรอคำตอบใจหาย น้ำตามากมายไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"อี้ชิง อย่างร้องไห้สิ พี่เข้าใจพี่ขอแค่ดูแลนายอย่างนี้ไปตลอด ความรู้สึกที่พี่มีให้นายมันไม่เปลี่ยนแปลง และอย่างที่อี้ฝานบอกวันไหนทุกอย่างพร้อมพี่จะมาขอนายอีกครั้ง"
ลู่หานดึงร่างบางมากอดแล้วผละออกใช้มือเรียวปาดน้ำตาออกจากใบหน้าสวย
"พวกเราจะดูแลนายเองนะ จาง อี้ชิง" ทั้งสามกอดกัน ปล่อยให้ซึมซับความรู้สึกที่มีให้ต่อกันและกัน ไม่มีใครรู้ว่าวันนั้นที่ทุกอย่างพร้อมจะเป็นวันไหน แต่ตอนนี้ของแค่ให้อู๋ อี้ฝาน และ เสี่ยว ลู่หาน ได้ดูแลหัวใจตัวเองที่ชื่อ จาง อี้ชิง ไปจนกว่าจะถึงวันนั้นละกัน...
End...
**อ่า...จบแล้ว แอบงง555 เรื่องนี้อยากแต่งดราม่าเล็กๆ แต่แต่งออกมาแบบแปลกๆ แอบน้อยใจนิดๆนะเนี่ย55 ไม่ค่อยมีใครเม้น
สามารถเข้ามาคุยกันได้นะ #IWHH ค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ SwNita ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SwNita
ความคิดเห็น